วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Bugs ในโปรแกรมต่างๆคืออะไร??

จากบั๊กตัวเล็กๆไม่กี่ตัว พัฒนาสู่บั๊กหลายตัว เดือดร้อนถึง Patch File เพื่อใช้ในการปะผุ จนกระทั่ง ServicesPack เป็นที่แน่ใจได้เลยว่าโปรแกรม ไร้บั๊ก เป็นแค่โปรแกรมในอุดมคติเท่านั้น และจะพิชิตบั๊กอย่างไรดี

ว่ากันด้วยเรื่องการปะผุ (Patch และ Services Pack) ว่ากันว่า บั๊ก (Bug) นั้นเกิดมาพร้อมกับโปรแกรมที่เขียนออกมาทีเดียว ยิ่งโปรแกรมซับซ้อนเท่าไร โอกาสที่จะมีบั๊กก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เรื่องของบั๊กตามที่ผมได้ฟังมานั้น มันเหมือนกับโจ๊กในวงการตลกของฝรั่งเขาแหละ สนุกแต่เศร้าเคล้าน้ำตา เรื่องมีอยู่ว่าสมัยที่คอมพิวเตอร์ยังมีขนาดเท่าห้องประชุมย่อมๆ และใช้หลอดสูญญากาศในการทำงาน (ยังไม่ถึงสมัยของทรานซิสเตอร์ ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงชิปหรือไอซี) มีวันหนึ่งวิศวกรก็สั่งให้คอมพิวเตอร์ดังกล่าวประมวลผล ปรากฎว่าสั่งอย่างไร มันก็ไม่ประมวลผล หรือประมวลผลออกไม่ตรงกับที่คาดหมาย คล้ายๆจะเบลอหรือสมองเสื่อม วิศวกรก็ค้นหากันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งประมวลผล (โปรแกรม) หลังจากพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตรวจไม่พบ ในที่สุดวิศวกรคนหนึ่งก็เข้าไปดูในส่วนของฮาร์ดแวร์ และพบว่าแมลงตัวหนึ่งเกาะที่ขาหลอด ก็เลยจับเอาแมลงที่เกาะติดกับขาของหลอดสูญญากาศออกมา พร้อมกับตะโกนว่า บั๊ก บั๊ก พอจับเอาแมลงออกไปก็เป็นอันว่ารันโปรแกรมได้ตามปกติ ดังนั้นชื่อของบั๊ก อันแปลความหมายเป็นไทยว่าแมลง จึงถูกนำไปเรียกสาเหตุความผิดพลาดนาประการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เกี่ยวกับบั๊กในยุคก่อนนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ใคร่ได้รับความสนใจนัก เนื่องจากบั๊กนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือผลไม่เด่นชัด โปรแกรมสมัยก่อนไม่ซับซ้อน แต่ปัจจุบันบั๊กเป็นของแถมที่ให้มาฟรีเมื่อซื้อซอฟต์แวร์เลยทีเดียว สังเกตได้ว่าหากมีโปรแกรมใดๆออกมาใหม่ เมื่อผ่านไปได้สองสามเดือน ผู้ผลิตจะได้รับรายงานผลจากผู้ใช้งานว่า เกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานซอฟต์แวร์ตรงนั้นตรงนี้ ทางผู้ผลิตก็จะเริ่มตรวจสอบและแก้ไขไปด้วย ซอฟต์แวร์ในระยะต่อมาก็จะเป็นชุดที่ได้รับการแก้ไขบั๊กดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว หรือหากมีการแก้ไขมากกว่าเดิม ผู้ผลิตก็มักจะเปลี่ยนชื่อเวอร์ชั่นหรือชื่อรุ่นไป เช่น ไมโครซอฟต์เวิร์ด 6.0 พอแก้บั๊กครั้งต่อๆไป ก็เป็น MS Word 6.0a , 6.0b , 6.0c แต่มาพอมาระยะหลัง ความซับซ้อนของซอฟต์แวร์มีมากขึ้น ประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างเร็วมากขึ้น จากการแก้บั๊กรุ่นอัปเกรดเวอร์ชั่น ก็ก้าวเข้าสู่ Services Pack ซึ่งหมายถึงชุดรวมของซอฟต์แวร์ที่ออกมาเพื่ออัปเดท ด้วยและแก้บั๊กที่เคยมีอยู่ด้วยพร้อมกันเลยทีเดียว

เกี่ยวกับซอฟต์แวร์แก้บั๊กนั้น เมื่อผู้ผลิตซอฟต์แวร์แก้ไขได้มากพอสมควร ก็จะนำเอาชุดโปรแกรมสำหรับแก้บั๊ก ซึ่งเรียกว่าเป็นชุดปะผุบ้าง อัปเดทบ้าง แจกผู้ใช้โดยไม่คิดมูลค่ากันเสียที (ก็เวลาบั๊กยังแจกฟรี เวลาแจกยากำจัดก็ควรจะแจกฟรีด้วยสิครับ) นี่คือที่มาของ Services Pack เช่น Windows 95 Services Pack 1 หรือ Windows NT 4.0 ซึ่งมีถึง Services Pack 3 เข้าไปแล้ว MS Office 7.0 ก็เช่นเดียวกันมีชุด Office Services Pack, PC Anywhere For 95 , Adobe Aldus Photoshop Services pack..คราวนี้ หลายๆคนเริ่มอาจถามว่า แล้วควรจะติดตั้ง Services Pack เหล่านั้นลงไปหรือไม่ คำตอบก็คือ ให้ตรวจสอบกับเอกสารก่อนว่า สิ่งที่เขาแก้ไขมานั้นเป็นส่วนที่ผู้ใช้เองประสบปัญหาอยู่หรือไม่ หากไม่เกี่ยวก็คงไม่ต้องติดตั้งชุดแก้บั๊กลงไปก็ได้ แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยและมั่นใจเต็มร้อยละก็ติดตั้งลงไปจะดีกว่า เสียเวลานิดเดียวเอง ดีกว่าเสียใจภายหลัง

Services Pack สำคัญที่ผมเองแนะนำให้ติดตั้งเสมอ มีดังต่อไปนี้ Windows 95 Service Pack 1 (สำหรับวินโดวส์ 95 ภาษาไทยต้องติดตั้ง Services Pack Thai Edition) MS Office 95 Services Pack, Windows NT 4.0 Server. Services Pack. รวมไปถึง IOSUPD.EXE สำหรับแก้ไขปัญหา I/O Stream ของวินโดวส์ 95 ด้วย เท่าที่นึกได้ตอนนี้ก็มีเท่านี้แหละ

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการติดตั้งชุด Services Pack ควรให้ความระมัดระวังเกี่ยวกับซอฟต์แวร์อะไรก็ตามที่มีชื่อลงท้ายว่า Thai Edition อันหมายความว่าเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย ซึ่งถูกนำมาเปลี่ยนแปลงบางส่วนเพื่อให้ทำงานกับระบบภาษาไทยได้สมบูรณ์ การอัปเดทจะไม่สามารถนำเอา Services pack ที่เป็นภาษาอังกฤษมาติดตั้งได้ ปกติเวอร์ชั่นมาตรฐานของซอฟต์แวร์ต่างๆ คือเวอร์ชั่น ภาษาอังกฤษ ซึ่งมักมีชุด Services Pack หรือชุดแก้บักก่อนเวอร์ชั่นอื่นๆ

การอัพเดทไบออส หรือที่เรียกว่าการ Flash BIOS ก็เป็นการแก้บั๊กประการหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่รายละเอียดจะไม่นำมากล่าวไว้ที่นี้ เนื่องจากมีบทความแยกเฉพาะสำหรับ การอัพเดทไบออส โดยการ Flash แยกไว้ต่างหาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น